ตัววิ่ง

ยินดีต้อนรับสู่เว็บบล็อก ผลงานนักเรียนของ ธนาวุฒิ เลี้ยงรักษา ได้เลยครับ

วันอังคารที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

PASSIVE VOICE

PASSIVE VOICE

โครงสร้างก็คล้ายกับ Active Voice ( Tense ทั้ง 12 ที่ได้เรียนไปแล้ว ) เพียงแค่มี Verb to be มาคั่น และกริยาหลักคือ ช่อง 3 หมดเลย และมีอยู่ทั้งหมด 12 รูปแบบประโยคเช่นกัน
 ถ้าจะพูดให้ฟังใหม่ก็คือว่า Tenseย่อย มี 12 ตัว  แต่ละตัวสามารถแบ่งออกเป็นสองชนิด ดังนี้

Present Tense

Present simple tense (Active voice )
Present simple tense (Passive voice )
Presenst continuous tense (Active voice)
Presenst continuous tense (Passive voice)

Phrasal verbs



Phrasal verbs
หรือ two-word verbs
คือ การใช้คำกริยาที่ปกติแล้วมีความหมายอย่างหนึ่ง แต่ส่วนประกอบ เมื่อ verb+ preposition or
 particle มารวมกันเป็น Phrasal verbs แล้ว อาจจะทำให้เกิดความหมายใหม่ขึ้นมาซึ่งอาจจะ
ไม่มีเค้าความหมายของคำกริยาเดิมเลย นิยมใช้กันมากในภาษาอังกฤษ
หลักสำคัญในการใช้ Phrasal Verbs หรือ Two-Word Verbs
1.เมื่อไม่มี direct object ต้องวาง adverb ไว้ติดกับ verb เช่น
- please come in.
- Don't give up, whatever happens.
2. เมื่อมี object pronoun เช่น him, her, it, them,
 me, us, เป็น direct object ต้องวาง object เหล่านี้ไว้หน้า adverb เช่น
- I can't make it out. (right)
- I can't make out it.(wrong)
3. เมื่อมี noun เช่น book , pen , houses , etc.เป็น dire อ่านเพิ่มเติม


วันอังคารที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2559

Direct Speech and Indirect Speech

1. Direct Speech คือการยกเอาคำพูดของผู้พูดมาเล่าโดยตรง
Somsak said :  "I am very busy now."
สมศักดิ์พูดว่า "ขณะนี้ฉันงานยุ่งมาก" ประโยคในเครื่องหมายคำพูด "........" เป็นประโยคที่ผู้พูด พูดเอง หรือเรียกว่า Direct Speech
  
 2. Indirect Speech หรือ Reported Speech คือการเอาคำพูดของผู้พูดมาเล่าเป็นคำพูดของตัวเอง